การ วาดรูปอนาคต ที่ Patti Dobrowolski กำลังจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นวิธีที่ดีมากเลยที่จะช่วยให้เราสร้างความฝันและชีวิตที่ปราถนาให้เป็นจริงได้ เธอได้อธิบายไว้อย่างละเอียดว่าเพราะเหตุใดภาพวาดถึงสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้ ตามมาดูทางนี้เลย
มา วาดรูปอนาคต กัน
บทแปลจากคลิป Draw your future
Maya Angelou เคยพูดว่า “ภาพจิตนาการเพียงภาพเดียวสามารถเปลี่ยนความจริงเป็นล้านๆอย่างได้” ความฝันหรือภาพที่คุณเห็นแบบไหนที่คุณอยากให้มันเป็นความจริงบ้าง ฉันอยากจะทำธุรกิจด้วยตัวของฉันเอง ฉันอยากจะเป็นที่ปรึกษา ฉันจะเป็น Gluten Free หลังจากที่ฉันกินเค้กช็อกโกแลตชิ้นสุดท้ายนั้น วันหนึ่งฉันอยากจะยืนขึ้นต่อหน้าเจ้านายห่วยๆของฉัน ฉันออกจะดูดีบนเรซูเม่แผ่นนั้น ฉันต้องรู้สึกดีสิ ฉันรู้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น คุณรู้ดีเพราะคุณรู้สึกแบบนั้น
คุณตกใจตื่นกลางดึก คุณเล่าเรื่องความฝันของคุณให้คู่รัก เพื่อน ครอบครัวฟัง แล้วคุณก็ยังคงทำพฤติกรรมเดิมๆที่ไม่ช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงอะไรเลย คุณถามตัวเองว่า แล้วชั้นจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? จากผลการวิจัยบอกว่าโอกาสที่คุณจะทำการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้สำเร็จมีแค่ 1 ใน 9 เท่านั้น ถึงแม้ว่าคุณจะกำลังเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยที่คุกคามถึงชีวิตก็ตาม
มาเดี๋ยวฉันจะยกตัวอย่างให้ฟังว่าคุณจะทำให้มันสำเร็จได้อย่างไร คุณสามารถใช้ชีวิตในแบบที่คุณอยากได้ได้ มันอยู่ตรงหน้าคุณนั่นเอง แต่การที่จะได้มันมานั้นคุณจะต้องเห็นมันก่อน และเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านั้น จากนั้นก็ต้องร้องขออย่างสุภาพและฝึกให้สมองของคุณสั่งงานให้คุณทำมันออกมาให้เป็นรูปเป็นร่าง แล้วเราจะเห็นมันได้อย่างไรล่ะ ก็จากภาพน่ะสิ
ภาพสามารถสร้างการเคลื่อนไหวได้ ภาพสามารถรวมใจประเทศชาติให้เป็นหนึ่งได้ ภาพสามารถเข้าถึงหัวใจของคุณและเติมความปราถนาให้ทำบางสิ่งได้ ที่บริษัท Roche Phamaceutical ประธานบริษัทบอกให้สร้างภาพวาดออกมาจากภาพที่เค้าคิด ก่อนหน้าที่จะทำสิ่งนี้ พนักงานน้อยกว่า 40% เข้าใจภาพกลยุทธ์ของบริษัท แต่หลังจากได้เห็นภาพนี้ 96% เข้าใจมัน 84% เข้าใจว่าสิ่งที่เค้าทำอยู่ทุกวันมันเป็นไปทางเดียวกับภาพแผนงานอย่างไร แล้วคุณล่ะจะใช้ภาพอย่างไรเพื่อให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ ก็จากภาพวาดง่ายๆงัย คุณไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินที่รู้เรื่องการวาดรูป ภาพแรกที่คุณวาดอาจจะเป็นภาพสถานการณ์ปัจจุบัน และภาพความปราถนาใหม่ที่คุณอยากให้เป็นความจริง เอาล่ะ คุณมีแผนงานสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้ว
อ่ะ ลองมาดูภาพ ณ ปัจจุบันกันก่อน สมมุติว่าคุณคือโจ โจมีงานที่ดีทำ โจมีภรรยาที่น่ารัก เอมี่ โจสามารถทำเงินได้มาก แต่ก็เหมือนกับพวกเรานั่นแหละ โจอยากได้ชีวิตที่ดีกว่านั้น และก็อยากจะทิ้งบางอย่างออกไป อาจจะเป็นงานที่เยอะเกินไป เจ้านายที่ไม่ดี โจอาจจะอยากได้จุดมุ่งหมายที่สูงกว่านั้น แต่ไม่รู้ว่าจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร เพราะฉะนั้น สถานการณ์ปัจจุบันยังเป็นภาพความคิดอยู่ เราจำสิ่งต่างๆได้ดีกว่าเมื่อเราเห็นภาพ 65% มีประสิทธิภาพกว่า เราลองมาดูกันว่า ตอนนี้โจอยากจะเปลี่ยนจากสถานการณ์เดิมไปสู่สิ่งใหม่ที่เค้าปราถนาถึง การที่โจจะฝันได้อย่างเต็มที่นั้น เค้าต้องหลอกสมองของเขาก่อน อย่างที่คุณรู้ว่าสมองซีกซ้ายของคุณจะคิดถึงการปกป้องคุณจากอันตรายและแน่ใจว่าคุณจะไม่ทำเรื่องโง่ๆลงไป
เพราะฉะนั้นเราก็เลยให้โจหลอกสมองแล้วก็ใช้จินตนาการ จินตนาการเกิดจากการใช้สมองซีกขวา ทำให้คุณรู้สึกสร้างสรรค์และมีความเป็นไปได้ งั้นตอนนี้เรามาฝันถึงชีวิตใหม่ของโจกันเถอะ ภาพสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นในอีก 1 ปีต่อจากนี้ ชีวิตของโจจะหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง โจมีงานใหม่ทำ โจมีเจ้านายคนใหม่คือตัวเค้าเอง โจมีผู้ประสานงานที่ดี และโจก็เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียและทุกๆอย่างที่เคยฝันถึง คอนเนคชั่น จุดมุ่งหมาย อิสระเสรี และความรัก
ฉันกำลังวาดภาพส่วนดีๆให้โจวันนี้ แต่ความจริงแล้วโจต้องวาดภาพนั้นเอาเองเพราะโจไม่สามารถจ้างฉันได้ อันที่จริงแล้วคุณจะได้รับพลังสูงสุดเมื่อคุณวาดภาพนั้นด้วยตัวของคุณเอง ตอนนี้โจมีภาพของตัวเองแล้ว ต่อไปโจก็ต้องเติมสีสันให้มัน เติมอารมณ์ความรู้สึกลงไป เค้าต้องทำตัวเหมือนอยู่ข้างในภาพเหล่านี้แล้วมองออกมา สมองของคุณจะหลั่งสารเซริโทนิน และออกซิโทซัน เมื่อคุณวาดภาพและฝัน เพื่อที่คุณจะรู้สึกดี สามารถทำได้ สร้างสรรค์ และรู้สึกเจ๋งดี
ตอนนี้เรามีภาพโจในสถานการณ์ปัจจุบัน และโจในอนาคต แล้วโจจะเปลี่ยนจากภาพเดิมไปสู่ภาพใหม่ได้อย่างไร เราสามารถทำได้โดยใช้หลักการง่ายๆ 3 ข้อ ถ้าฉันรู้อย่างนี้ชั้นคงทำไปตั้งแต่ 25 ปีที่แล้ว ก่อนที่ชั้นจะเป็นแบบนี้ แล้วเวทมนตร์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น สมองรู้จักคุณดี มันจะเก็บรวบรวมสิ่งที่คุณเห็น ได้ยิน ได้รับประสบการณ์ ทั้งจากความจริงและจินตนาการ คุณต้องขอร้องให้มันรวบรวมสิ่งเหล่านั้นเข้าด้วยกันให้คุณ ง่ายๆแค่นี้เอง
เราอาศัยอยู่ในโลก 3 มิติ แต่สิ่งที่เห็นมันเป็นได้แค่ภาพ 2 มิติ สมองก็ต้องจัดการกับเรื่องนี้ แล้วเราจะจัดการกับอีกมิติที่เกินมาได้อย่างไรล่ะ ก็แค่ลองเดาเอา เหมือนกับการที่เราเดาว่า เราจะเดินไปหยิบกาแฟที่ไหน และมันก็สามารถเดาได้ไม่ยากว่าขั้นตอนทั้ง 3 อย่างนั้นจะเป็นอย่างไร ที่คุณต้องทำก็คือมองไปที่ภาพนั้น หลับตาลง ขั้นตอนนี้จะทำให้สมองของคุณเริ่มทำงาน ประมวลภาพทุกอย่างที่คุณเคยเห็น ที่เคยสัมผัส ที่เคยจินตนาการถึง จากนั้นสมองจะช่วยคุณด้วยการค้นหาวิธีที่เป็นไปได้มากที่สุด แค่เพียงคุณทำตัวให้ผ่อนคลายแล้วก็ร้องขอจากมัน เอาล่ะ 3 ขั้นตอนนี้คือ เห็นมัน เชื่อมั่นในมัน และทำให้มันเป็นจริง สิ่งที่อันตรายคือ ถ้า 1 ในขั้นตอนที่ว่านี้ดูน่ากลัวเกินไป สมองซีกซ้ายฝั่งเหตุผลก็จะเริ่มบอกคุณแบบนี้ โอ๊ย ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่อยากทำแบบนั้น อันที่จริงแล้วโต๊ะนี้ก็ไม่ได้เล็กเกินไปนะ ชีวิตก็โอเคอยู่ เงินเดือน $20,000 ต่อปี ก็เป็นรายได้ที่เหมาะสม เจ้านายเค้าก็ไม่ได้แย่กับฉันขนาดนั้น คุณรู้อะไรมั้ย ฉันจะยืนอยู่ตรงนี้แหละ มันโอเคแล้ว
แล้วคุณจะดึงตัวเองให้ทำสิ่งที่กล้าหาญนี้ได้อย่างไรล่ะ ก็จากการวาดภาพให้ดูบีบคั้นมากที่สุด เมื่อคุณมองไปที่ภาพนั้นคุณเจ็บปวดกับมัน แต่พอมองไปที่อีกภาพนึง มันยอดมาก คุณได้อยู่ข้างในภาพที่เชื่อมต่อเรื่องราวและทำให้ชีวิตของคุณเป็นอิสระจากภาพเก่านั้น เพราะฉะนั้น ทุกๆวันที่คุณตื่นขึ้นมาคุณต้องรู้สึกถึงความจริงข้างในภาพนั้น
คราวนี้ก็มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุด “การลงมือทำ” คุณแค่ทำเรื่องเล็กๆอย่างเช่น คุณลองโทรปรึกษาเพื่อนที่ทำธุรกิจของตัวเอง คุณไปถามเอมี่ว่าเธอจะสนับสนุนคุณมั้ย คุณเดินไปถามเจ้านายคุณว่าจะช่วยเหลือคุณบ้างได้หรือไม่ แล้วคุณจะได้เป็น 1 ใน 10 ที่สามารถทำสิ่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
ฉันได้วางกระดาษแผ่นนี้บนโต๊ะของคุณ คุณจะได้วาดภาพของตัวเองเหมือนที่ฉันวาดให้โจ คุณได้เห็นฝันที่น่าตื่นตาตื่นใจ จุดประกายไอเดียให้คุณ ฉันขอท้าให้คุณวาดความฝันของคุณลงไปที่กระดาษแผ่นนั้น ฉันขอให้คุณวาดภาพตัวแทนนี้แล้วส่งภาพมาที่ Ted X Rainier
Maya Angelou พูดว่า “ภาพจิตนาการเพียงภาพเดียวสามารถเปลี่ยนความจริงเป็นล้านๆอย่างได้” เพียงแค่ใช้วิธีการอันกล้าหาญ 3 อย่างนี้ก็สามารถเปลี่ยนความจริงนั้นให้กลายเป็นของคุณได้ ขอบคุณค่ะ
สรุปเรื่องการ วาดรูปอนาคต
วิธีที่ Patti บอกเอาไว้คือการที่เรากำหนดแผนภาพที่เราอยากได้ให้มันชัดเจนที่สุด แล้วเราก็ใช้สมองในการคิดอย่างเป็นขั้นตอนว่าเราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งมันคงไม่ง่ายและต้องใช้เวลาพอสมควร อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องตั้งใจและลงมือทำมันให้เต็มที่ อนาคตที่คุณใฝ่ฝันถึงก็อยู่ไม่ไกลแล้วล่ะ
ติดตามเรื่องราวจาก Ted Talks ดีๆที่เราคัดสรรมาให้เพิ่มเติมได้ที่ 5 ไอเดียจาก Ted Talks
สนใจเรื่องที่จุดประกายความคิด ช่วยให้ชีวิตมีดีขึ้นที่ Ted Talks
Plaradise รับทำเว็บไซต์ WordPress โดยนักออกแบบมืออาชีพ