Entrepreneur คือ อะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

Entrepreneur คือ

Entrepreneur คือ ผู้ประกอบการ หมายถึงคนที่จัดการธุรกิจให้เกิดผลกำไร ทำงานมากกว่าคนที่เป็นลูกจ้าง ผู้ประกอบการนั้นทำหน้าที่หลักในระบบเศรษฐกิจ เป็นกลุ่มคนที่มีทักษะความสามารถ และเป็นคนที่มีไอเดียริเริ่มในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบสนองต่อความต้องการของท้องตลาด คำว่า Entrepreneur นั้นอ่านออกเสียงว่า ออน-เทอร์-เพอร์-เนอร์ ดูจะออกเสียงยากนิดนึงแต่ลองซ้อมกันดูนะคะตามนี้เลย How to say Entrepreneur

ผู้ประกอบการผู้ประกอบการที่ดีนั้นคือคนที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ธุรกิจของตัวเองนั้นเกิดผลกำไร และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆให้เกิดขึ้น มีหลายคนที่อยากจะเป็นผู้ประกอบการแต่ก็ไม่สามารถนำพาธุรกิจของตัวเองไปให้ถึงฝั่งฝันได้ ต้องสูญเสียเงินที่ได้ลงทุนและปิดกิจการเหล่านั้นไป ธุรกิจที่ผู้ประกอบการทั้งหลายนิยมทำกัน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ

การจะเป็น ผู้ประกอบการ ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติดังนี้คือ

  1. มีความเป็นผู้นำสูง Leadership กล้าในการตัดสินใจและเชื่อมั่นในความคิดอันแน่วแน่
  2. มีความพยายามเป็นเลิศ
  3. มีจิตใจที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อเมื่อเจออุปสรรค
  4. ต้องคิดและใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา หยุดอยู่กับที่นิ่งไม่ได้
  5. มองโลกในแง่บวก เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้
  6. มีความสามารถในการจัดการทุกเรื่องในธุรกิจ
  7. มีความคิดรอบด้าน ต้องคิดแผนเตรียมไว้เสมอ เพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

เอาล่ะ เราก็คงเข้าใจความหมายของคำว่า Entrepreneur กันไปแล้ว งั้นเราจะมาอธิบายอีกคำที่สำคัญไม่แพ้กันเลยล่ะ

Online Entrepreneur คือ อะไร

Online Entrepreneurคำว่า Online Entrepreneur ผู้ประกอบการออนไลน์ ในเรื่องของคุณสมบัติตามแบบผู้ประกอบการด้านบนแล้วไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือรูปแบบของธุรกิจ เจ้าของกิจการแบบธรรมดา จะใช้วิธีการทำงานอยู่ที่บริษัท ห้างร้านต่างๆ แล้วก็คอยดูแลบริหารลูกน้องและสินค้าอยู่ที่นั่น ส่วนเจ้าของกิจการออนไลน์นั้น จะใช้วิธีทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ อย่างเช่นว่า

ตัวอยู่บ้านแต่มีบริษัทขายสินค้าโดยมีช่องทางการขายคือ เว็บไซท์ มีทีมงานที่เป็นฟรีแลนซ์ไม่ต้องเข้าออฟฟิศติดต่อสื่อสารกันผ่านทางโทรศัพท์ละอินเตอร์เน็ท ส่วนซัพพลายเออร์หรือผู้ที่ผลิตสินค้าให้ก็อยู่อีกที่หนึ่ง แต่ได้มีการเจรจาทางธุรกิจกันแล้วว่าจะผลิตสินค้าและส่งสินค้ากันอย่างไรโดยใช้วิธีที่ง่ายที่สุด ซึ่งจะเป็นสินค้าได้ทั้งสองแบบ คือสินค้าที่จับต้องได้หรือที่เรียกกันว่า Physical Product ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และสินค้าจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์จับต้องไม่ได้ ที่เรียกกันว่า Info product นั่นเอง

Online Entrepreneur มีกี่ประเภท แบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆได้ 3 ประเภท

  • Influencer : Blogger, Youtuber ผู้ที่มีอิทธิพลต่อความนึกคิดของคนทั่วไปโดยใช้ Platform บนอินเตอร์เน็ทเป็นสื่อ เช่น Facebook, Instagram, Youtube, Website
  • ขายสินค้าออนไลน์ : แม่ค้าออนไลน์ธรรมดา, Dropshipping
  • Service Agency : ใช้ทั้งวิธีหาลูกค้าออนไลน์และ มีทีมงานออนไลน์
  • Online Publisher : อาชีพผลิตสื่อออนไลน์

ยังมีอาชีพอีกมากมายที่สามารถเป็นแบบผู้ประกอบการออนไลน์ได้ อยากรู้เพิ่มเติมอ่านต่อได้ที่นี่ 8 อาชีพออนไลน์แบบไหนที่ใช่คุณ

ข้อดีของการเป็น ผู้ประกอบการ

  • มีอิสะที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองคิดได้ ไม่ต้องรอคำสั่งจากใคร
  • สร้างรายได้แบบที่ไม่มีเพดานจำกัด ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารธุรกิจ
  • ธุรกิจที่เราสร้างขึ้นมานั้นจะกลายเป็นทรัพย์สินของเรา
  • เปิดโลกทัศน์ใ้ชีวิต
  • มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำในเชิงลึก

ข้อเสีย

  • ต้องแบกรับความเสี่ยงทุกอย่างเอง ทั้งเรื่องของเงินลงทุนการบริหารคน
  • ถ้าวางระบบไม่ดีอาจทำให้ต้องใช้เวลาทั้งหมด หมดไปกับการบริหารธุรกิจ และเหนื่อยมากจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เช่นการพักผ่อน การไปเที่ยว
  • หยุดไม่ได้ ไม่มีวันลา และต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำแผนธุรกิจ
  • มีความกดดัน และความเครียดสูงเพราะต้องรับภาระในทุกเรื่อง

ตัวอย่างของ Entrepreneur เจ๋งๆ

  • Mark Zuckerberg : เจ้าของ Social ที่ดังสุดในทศวรรษ Facebook
  • Elon Musk : เจ้าของบริษัท Space X และบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla
  • Jack Ma : เจ้าของ Platform ธุรกิจ E-Commerce เจ้าใหญ่จากประเทศจีน Alibaba
  • Sophia Amoruso : เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Nastygal และผู้เขียนหนังสือ Girlboss
  • Richard Brandson : เจ้าของธุรกิจ Virgin
  • howard schultz : เจ้าของร้านกาแฟแฟรนไชส์สุดดังอย่าง Starbucks
  • Oprah Winfrey : พิธีกรและเจ้าของรายการ The Oprah Winfrey Show
  • J.K. Rowling : ผู้เขียนหนังสือ Harry Potter

จะเป็น ผู้ประกอบการ ต้องทำอะไรบ้าง

Idea 1.มองหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

  • ลิสความสนใจ ความชอบออกมาให้มากที่สุด ชอบทำร้านกาแฟ ชอบขายขนม หรือจะทำธุรกิจขายสินค้าที่เป็น MASS product อย่างเช่น เครื่องสำอาง, อาหารเสริม หรือสนใจธุรกิจบริการ เช่น ร้านสปา ให้บริการทำการตลาด ไปจนถึงการทำธุรกิจแบบ Start Up Technology
  • คิดถึงความตั้งใจข้างในลึกๆว่าอยากทำอะไร
  • ดูที่ความถนัด ความสามารถที่คุณมี
  • ทำตามธุรกิจที่คุณชื่นชอบ
  • หาธุรกิจที่แก้ปัญหา หรือมีช่องว่างในตลาด

2.เขียน Business Plan

  • ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
  • ช่วยให้เห็นภาพธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความมั่นใจ และโฟกัสได้ตรงประเด็นมากขึ้น
  • ทำให้เห็นเป้าหมาย กลยุทธ์ และขั้นตอนการทำงาน

เรากำลังทำธุรกิจอะไร

ลูกค้าเราเป็นใคร

สัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าและตัวเองคืออะไร

3.รู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างแรก

เรียนรู้และเข้าใจว่าเค้าชอบสินค้าแบบไหน มีไลฟ์สไตล์อย่างไรบ้าง อายุเท่าไหร่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย

พอลองมองหาธุรกิจที่อยากทำได้คร่าวๆแล้ว ก่อนจะลงลึกในดีเทล ให้ลองหาตลาดนั้นให้เจอจริงๆก่อน มั่นใจว่ามีคนจะซื้อแน่ๆ จะช่วยให้ธุรกิจทำเงินได้เร็วขึ้นค่ะ

4.สร้างเครือข่ายคนที่จะช่วยให้งานเรานั้นสำเร็จ

  • พยายามทำความรู้จักกับคนที่มีความรู้ในธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ พาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยงานของคุณ ทีมงานต่างๆ ผู้ผลิตสินค้า และช่องทางการขาย
  • สร้างฐานลูกค้าจากทั้งการไปเจอแบบตัวต่อตัวตามงานสัมนาต่างๆ และฐานลูกค้าจากโลกออนไลน์เช่น การสร้างคอนเท้นที่มีสาระเพื่อให้พวกเค้าเหล่านั้น เชื่อและไว้ใจเรา
  • ทำความรู้จักกับธุรกิจสายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เช่น ถ้าเราทำธุรกิจร้านกาแฟ เราก็ต้องรู้จักกับร้านขนม ร้านขายอาหาร หรือจะเป็นร้านกาแฟเหมือนกันแต่อยู่คนละโซนก็ได้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางความคิด ไอเดียต่างๆ และการใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน

4 สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการเป็น ผู้ประกอบการ

Leadership

  • ประสบการณ์การในการทำธุรกิจที่มีมาอยู่ก่อนแล้ว
  • เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
  • มีทีมบริหารจัดการที่สุดยอด
  • ดวงดี ข้อนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ไม่อยากให้ไปโฟกัสมาก เพราะความสำเร็จแท้จริงแล้วมันเกิดจากความพยายามอยู่เกือบ 80% เลยทีเดียว

อุปสรรคที่ทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

  • ไม่กล้าที่จะเสี่ยง
  • ต้องใช้แรงและเวลาในการทำงานอย่างมาก บางคนอาจจะถอดใจไปก่อน
  • ความยากในการสร้างเม็ดเงิน
  • ทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจ
  • ความรู้ในเรื่องของการเริ่มต้นทำธุรกิจ
  • ความรู้ในเรื่องของอุตสาหกรรมและการตลาด
  • ความกดดันทางด้านการเงินที่ไม่มั่นคงเหมือนกับงานประจำ

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก What great entrepreneur have in common

สรุป 

การเป็นผู้ประกอบการนั้น ต้องมีความเป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจให้สำเร็จ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ มีที่ปรึกษาที่คอยให้คำแนะนำ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ภาพลักษณ์ที่ปรากฏบนสื่อต่างๆที่เราเห็นนั้น อาจดูสวยหรูจนทำให้ใครๆก็อยากหันมาเป็นผู้ประกอบการเอง ทั้งการทำธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ เพราะมีปัจจัยหลักหลายอย่างแบบที่ได้กล่าวมาแล้ว

สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติ มีประสบการณ์พร้อมและอยากที่จะเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ อยากสร้างแบรนด์ตัวเอง ก็สามารถหาความรู้ คำแนะนำจากผู้รู้และลงมือทำอย่างจริงจังได้เลย อาจจะเริ่มจากธุรกิจเล็กๆก่อนที่สามารถทำในระหว่างที่ยังเป็นพนักงานประจำอยู่ก็ได้ เมื่อทุกอย่างเริ่มสร้างผลกำไรก็จะยิ่งทำให้เรามีกำลังใจและมีความมั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งนี้มันจะเวิร์คแน่ๆ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลวเพราะนั่นถือเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะเป็นผู้ประกอบการนะคะ