Entrepreneur คือ ผู้ประกอบการ หมายถึงคนที่จัดการธุรกิจให้เกิดผลกำไร ทำงานมากกว่าคนที่เป็นลูกจ้าง ผู้ประกอบการนั้นทำหน้าที่หลักในระบบเศรษฐกิจ เป็นกลุ่มคนที่มีทักษะความสามารถ และเป็นคนที่มีไอเดียริเริ่มในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบสนองต่อความต้องการของท้องตลาด คำว่า Entrepreneur นั้นอ่านออกเสียงว่า ออน-เทอร์-เพอร์-เนอร์ ดูจะออกเสียงยากนิดนึงแต่ลองซ้อมกันดูนะคะตามนี้เลย How to say Entrepreneur
ผู้ประกอบการที่ดีนั้นคือคนที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ธุรกิจของตัวเองนั้นเกิดผลกำไร และสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆให้เกิดขึ้น มีหลายคนที่อยากจะเป็นผู้ประกอบการแต่ก็ไม่สามารถนำพาธุรกิจของตัวเองไปให้ถึงฝั่งฝันได้ ต้องสูญเสียเงินที่ได้ลงทุนและปิดกิจการเหล่านั้นไป ธุรกิจที่ผู้ประกอบการทั้งหลายนิยมทำกัน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ
การจะเป็น ผู้ประกอบการ ได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติดังนี้คือ
- มีความเป็นผู้นำสูง Leadership กล้าในการตัดสินใจและเชื่อมั่นในความคิดอันแน่วแน่
- มีความพยายามเป็นเลิศ
- มีจิตใจที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อเมื่อเจออุปสรรค
- ต้องคิดและใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา หยุดอยู่กับที่นิ่งไม่ได้
- มองโลกในแง่บวก เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้
- มีความสามารถในการจัดการทุกเรื่องในธุรกิจ
- มีความคิดรอบด้าน ต้องคิดแผนเตรียมไว้เสมอ เพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
เอาล่ะ เราก็คงเข้าใจความหมายของคำว่า Entrepreneur กันไปแล้ว งั้นเราจะมาอธิบายอีกคำที่สำคัญไม่แพ้กันเลยล่ะ
Online Entrepreneur คือ อะไร
คำว่า Online Entrepreneur ผู้ประกอบการออนไลน์ ในเรื่องของคุณสมบัติตามแบบผู้ประกอบการด้านบนแล้วไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ต่างคือรูปแบบของธุรกิจ เจ้าของกิจการแบบธรรมดา จะใช้วิธีการทำงานอยู่ที่บริษัท ห้างร้านต่างๆ แล้วก็คอยดูแลบริหารลูกน้องและสินค้าอยู่ที่นั่น ส่วนเจ้าของกิจการออนไลน์นั้น จะใช้วิธีทำธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ อย่างเช่นว่า
ตัวอยู่บ้านแต่มีบริษัทขายสินค้าโดยมีช่องทางการขายคือ เว็บไซท์ มีทีมงานที่เป็นฟรีแลนซ์ไม่ต้องเข้าออฟฟิศติดต่อสื่อสารกันผ่านทางโทรศัพท์ละอินเตอร์เน็ท ส่วนซัพพลายเออร์หรือผู้ที่ผลิตสินค้าให้ก็อยู่อีกที่หนึ่ง แต่ได้มีการเจรจาทางธุรกิจกันแล้วว่าจะผลิตสินค้าและส่งสินค้ากันอย่างไรโดยใช้วิธีที่ง่ายที่สุด ซึ่งจะเป็นสินค้าได้ทั้งสองแบบ คือสินค้าที่จับต้องได้หรือที่เรียกกันว่า Physical Product ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และสินค้าจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์จับต้องไม่ได้ ที่เรียกกันว่า Info product นั่นเอง
Online Entrepreneur มีกี่ประเภท แบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆได้ 3 ประเภท
- Influencer : Blogger, Youtuber ผู้ที่มีอิทธิพลต่อความนึกคิดของคนทั่วไปโดยใช้ Platform บนอินเตอร์เน็ทเป็นสื่อ เช่น Facebook, Instagram, Youtube, Website
- ขายสินค้าออนไลน์ : แม่ค้าออนไลน์ธรรมดา, Dropshipping
- Service Agency : ใช้ทั้งวิธีหาลูกค้าออนไลน์และ มีทีมงานออนไลน์
- Online Publisher : อาชีพผลิตสื่อออนไลน์
ยังมีอาชีพอีกมากมายที่สามารถเป็นแบบผู้ประกอบการออนไลน์ได้ อยากรู้เพิ่มเติมอ่านต่อได้ที่นี่ 8 อาชีพออนไลน์แบบไหนที่ใช่คุณ
ข้อดีของการเป็น ผู้ประกอบการ
- มีอิสะที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองคิดได้ ไม่ต้องรอคำสั่งจากใคร
- สร้างรายได้แบบที่ไม่มีเพดานจำกัด ขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารธุรกิจ
- ธุรกิจที่เราสร้างขึ้นมานั้นจะกลายเป็นทรัพย์สินของเรา
- เปิดโลกทัศน์ใ้ชีวิต
- มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำในเชิงลึก
ข้อเสีย
- ต้องแบกรับความเสี่ยงทุกอย่างเอง ทั้งเรื่องของเงินลงทุนการบริหารคน
- ถ้าวางระบบไม่ดีอาจทำให้ต้องใช้เวลาทั้งหมด หมดไปกับการบริหารธุรกิจ และเหนื่อยมากจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เช่นการพักผ่อน การไปเที่ยว
- หยุดไม่ได้ ไม่มีวันลา และต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำแผนธุรกิจ
- มีความกดดัน และความเครียดสูงเพราะต้องรับภาระในทุกเรื่อง
ตัวอย่างของ Entrepreneur เจ๋งๆ
- Mark Zuckerberg : เจ้าของ Social ที่ดังสุดในทศวรรษ Facebook
- Elon Musk : เจ้าของบริษัท Space X และบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla
- Jack Ma : เจ้าของ Platform ธุรกิจ E-Commerce เจ้าใหญ่จากประเทศจีน Alibaba
- Sophia Amoruso : เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Nastygal และผู้เขียนหนังสือ Girlboss
- Richard Brandson : เจ้าของธุรกิจ Virgin
- howard schultz : เจ้าของร้านกาแฟแฟรนไชส์สุดดังอย่าง Starbucks
- Oprah Winfrey : พิธีกรและเจ้าของรายการ The Oprah Winfrey Show
- J.K. Rowling : ผู้เขียนหนังสือ Harry Potter
จะเป็น ผู้ประกอบการ ต้องทำอะไรบ้าง
1.มองหาธุรกิจที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
- ลิสความสนใจ ความชอบออกมาให้มากที่สุด ชอบทำร้านกาแฟ ชอบขายขนม หรือจะทำธุรกิจขายสินค้าที่เป็น MASS product อย่างเช่น เครื่องสำอาง, อาหารเสริม หรือสนใจธุรกิจบริการ เช่น ร้านสปา ให้บริการทำการตลาด ไปจนถึงการทำธุรกิจแบบ Start Up Technology
- คิดถึงความตั้งใจข้างในลึกๆว่าอยากทำอะไร
- ดูที่ความถนัด ความสามารถที่คุณมี
- ทำตามธุรกิจที่คุณชื่นชอบ
- หาธุรกิจที่แก้ปัญหา หรือมีช่องว่างในตลาด
2.เขียน Business Plan
- ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ
- ช่วยให้เห็นภาพธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความมั่นใจ และโฟกัสได้ตรงประเด็นมากขึ้น
- ทำให้เห็นเป้าหมาย กลยุทธ์ และขั้นตอนการทำงาน
เรากำลังทำธุรกิจอะไร
ลูกค้าเราเป็นใคร
สัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าและตัวเองคืออะไร
3.รู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างแรก
เรียนรู้และเข้าใจว่าเค้าชอบสินค้าแบบไหน มีไลฟ์สไตล์อย่างไรบ้าง อายุเท่าไหร่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย
พอลองมองหาธุรกิจที่อยากทำได้คร่าวๆแล้ว ก่อนจะลงลึกในดีเทล ให้ลองหาตลาดนั้นให้เจอจริงๆก่อน มั่นใจว่ามีคนจะซื้อแน่ๆ จะช่วยให้ธุรกิจทำเงินได้เร็วขึ้นค่ะ
4.สร้างเครือข่ายคนที่จะช่วยให้งานเรานั้นสำเร็จ
- พยายามทำความรู้จักกับคนที่มีความรู้ในธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ พาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยงานของคุณ ทีมงานต่างๆ ผู้ผลิตสินค้า และช่องทางการขาย
- สร้างฐานลูกค้าจากทั้งการไปเจอแบบตัวต่อตัวตามงานสัมนาต่างๆ และฐานลูกค้าจากโลกออนไลน์เช่น การสร้างคอนเท้นที่มีสาระเพื่อให้พวกเค้าเหล่านั้น เชื่อและไว้ใจเรา
- ทำความรู้จักกับธุรกิจสายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เช่น ถ้าเราทำธุรกิจร้านกาแฟ เราก็ต้องรู้จักกับร้านขนม ร้านขายอาหาร หรือจะเป็นร้านกาแฟเหมือนกันแต่อยู่คนละโซนก็ได้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางความคิด ไอเดียต่างๆ และการใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน
4 สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการเป็น ผู้ประกอบการ
- ประสบการณ์การในการทำธุรกิจที่มีมาอยู่ก่อนแล้ว
- เรียนรู้จากความสำเร็จและความล้มเหลวจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
- มีทีมบริหารจัดการที่สุดยอด
- ดวงดี ข้อนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ไม่อยากให้ไปโฟกัสมาก เพราะความสำเร็จแท้จริงแล้วมันเกิดจากความพยายามอยู่เกือบ 80% เลยทีเดียว
อุปสรรคที่ทำให้ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
- ไม่กล้าที่จะเสี่ยง
- ต้องใช้แรงและเวลาในการทำงานอย่างมาก บางคนอาจจะถอดใจไปก่อน
- ความยากในการสร้างเม็ดเงิน
- ทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจ
- ความรู้ในเรื่องของการเริ่มต้นทำธุรกิจ
- ความรู้ในเรื่องของอุตสาหกรรมและการตลาด
- ความกดดันทางด้านการเงินที่ไม่มั่นคงเหมือนกับงานประจำ
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก What great entrepreneur have in common
สรุป
การเป็นผู้ประกอบการนั้น ต้องมีความเป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจให้สำเร็จ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ มีประสบการณ์ มีที่ปรึกษาที่คอยให้คำแนะนำ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ภาพลักษณ์ที่ปรากฏบนสื่อต่างๆที่เราเห็นนั้น อาจดูสวยหรูจนทำให้ใครๆก็อยากหันมาเป็นผู้ประกอบการเอง ทั้งการทำธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ เพราะมีปัจจัยหลักหลายอย่างแบบที่ได้กล่าวมาแล้ว
สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติ มีประสบการณ์พร้อมและอยากที่จะเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ อยากสร้างแบรนด์ตัวเอง ก็สามารถหาความรู้ คำแนะนำจากผู้รู้และลงมือทำอย่างจริงจังได้เลย อาจจะเริ่มจากธุรกิจเล็กๆก่อนที่สามารถทำในระหว่างที่ยังเป็นพนักงานประจำอยู่ก็ได้ เมื่อทุกอย่างเริ่มสร้างผลกำไรก็จะยิ่งทำให้เรามีกำลังใจและมีความมั่นใจมากขึ้นว่าสิ่งนี้มันจะเวิร์คแน่ๆ ไม่ต้องกลัวความล้มเหลวเพราะนั่นถือเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ ที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเติบโตต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากจะเป็นผู้ประกอบการนะคะ