ใครๆ ก็อยากหาเงินออนไลน์ เพราะต้นทุนมีแค่ค่าไฟและคอมพิวเตอร์หนึ่งตัว และที่สำคัญคือ เค้าว่ากันว่ามันเป็นงานสบายและรายได้ดี เราก็มีจุดเริ่มต้นมาจากไอเดียเดียวกันนี้แหละค่ะ ยิ่งได้ค้นคว้าข้อมูลให้ลึกขึ้น เก็บข้อมูลจากประสบการณ์ของคนที่เคยทำ และได้ไปงานสัมนาต่างๆ ก็ยิ่งได้พบว่ามีวิธีหาเงินหลากหลายรูปแบบมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมและหาเงินได้แบบยั่งยืนก็คือการทำ Affiliate Marketing นั่นเอง เหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับโมเดลการหาเงินแบบนี้ก็เพราะเราสามารถหาเงินได้แบบ Passive Income หรือการลงทุนทำเพียงแค่หนึ่งครั้งก็หาเงินได้เรื่อยๆอย่างไม่รู้จบด้วย
สร้างเว็บไซต์ WordPress ด้วยตัวเอง สำหรับทำ Affiliate Marketing คลิก
หารายได้ ด้วย Affiliate Marketing คือ
การที่เราทำตัวเป็นนายหน้าขายสินค้าให้กับแบรนด์ ธนาคาร ร้านค้า โดยการสร้างคอนเท้นท์ในรูปแบบต่างๆ แล้วก็เอาลิ้งค์ที่เราไปสมัคร Affiliate ไว้ เอามาวาง เมื่อกลุ่มลูกค้าเกิดความสนใจในตัวสินค้าแล้วคลิกซื้อผ่านลิ้งที่เราวางไว้ เราก็จะได้เงินค่าคอมมิชชั่นตามที่เค้ากำหนดไว้ให้ ซึ่งก็มีหลายท่านที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ด้วยการหาเงินแบบนี้
อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนที่หารายได้ด้วยวิธีนี้กันเยอะมากๆ และก็มีแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ที่เปิดช่องทางให้คนธรรมดาเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยขายสินค้า อย่างเช่น
Clickbank แพลทฟอร์มที่ขายดิจิตอลโปรดักท์
CJ แพลทฟอร์มสำหรับทำ Affiliate มาร์เก็ตติ้งกับแบรนด์และร้านค้าขนาดใหญ่
ซึ่งมูลค่าที่เกิดขึ้นในการทำ Affiliate Marketing ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 15%
หันมาดูในส่วนของเมืองไทย มีคนที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำเช่นกัน แต่สัดส่วนคนที่ทำ Affiliate Marketing ยังมีจำนวนอยู่น้อยมาก ประมาณ 7,000 คนเท่านั้น และบริษัทที่เป็นผู้นำในการรวบรวมพาร์ทเนอร์จากแบรนด์และร้านค้ามาทำแอฟฟิลิเอทตอนนี้ก็คือ Interspace หรือ Assestrade นั่นเอง ซึ่งเค้าบอกเลยว่าสัดส่วนการทำตลาด แอฟฟิลิเอทของเมืองไทยยังสามารถโตได้อีกเยอะ เพราะของประเทศเรามีการทำ Affiliate เพียงแค่ 0.8% เท่านั้น
Affiliate หลักๆในเมืองไทยมีที่ไหนบ้าง
Lazada
ทุกคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วเนอะ ว่าเค้าเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคนี้เลย มีสินค้าเกือบทุกชนิด แค่เราสมัคร Affiliate กับ Lazada เราก็สามารถเลือกสินค้าที่เราใช้อยู่ มาเล่าเรื่องราว ทำรีวิว แล้วก็วางลิ้งค์ Affiliate เอาไว้ให้คนที่สนใจในตัวสินค้านั้นๆมาซื้อผ่านลิงค์ของเราได้เลย
ข้อดี ก็คือมีสินค้าให้โปรโมทเยอะมาก
Fingo
แอพลิเคชั่นทำ Affiliate Marketing ที่ช่วยให้คุณมีระบบร้านค้
เริ่มต้นง่ายๆ เพียงสมัครแอพลิเคชั่น Fingo ฟรี แต่ถ้าเราอยากมีร้านของตั
ปลาสั่งซื้อสินค้า หูฟังบลูทูธ ตัวที่ให้เราอัพเกรดตำแหน่งมาใช้ สินค้าคุณภาพดีเลยค่ะ ปลารอสินค้าอยู่ 7 วัน ถือว่าเร็วเลยเพราะบางชิ้นสินค้าส่งมาจากต่างประเทศ
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจเปิดร้าน สมัคร Fingo ผ่านลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ ใช้โค้ดเชิญของปลาโค้ดนี้
Youpik
บริษัทน้องใหม่มาแรง เน้นเอาใจกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน เจ้านี้น่าสนใจตรงที่มีสินค้าที่เป็น Gadget ทันสมัยมาขายเยอะ คัดเฉพาะตัวเด็ดๆ ใช้งานได้ดีมาให้ ถึงตัวเลือกจะไม่มากเท่า Lazada แต่ค่าคอมมิชชั่นจ่ายให้แบบไม่เกรงใจใครเหมือนกันค่ะ ชวนเพื่อนมาสมัครต่อ และซื้อสินค้าเราก็ได้ค่าคอมอีกต่อด้วยนะ ยังไม่หมดนะคะ ถ้าเราซื้อสินค้าเองผ่านแอปเราก็ได้ส่วนลดเหมือนได้ Cashback คุ้มค่าเข้าไปอีกนะ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ ช่วงนี้ปลาก็เน้นใช้แอปนี้ค่ะ เพราะคุ้มค่าสุดๆ
ปล.ตัวนี้ต้องโหลดแอพพลิเคชั่นลงมือถือเท่านั้นนะคะ ไม่มีรูปแบบเว็บไซต์ แต่รับรองว่าใช้งานง่ายแน่นอนค่ะ
ใครที่สนใจหารายได้เสริมกับ Youpick คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ รหัสแนะนำของปลาคือ 127901 ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ
ส่วนใครที่อยากได้รหัสแนะนำ เพื่อเอาไปแนะนำให้เพื่อนหรือคนที่สนใจมาสมัครต่อ ก็ต้องเลือกที่คำว่า Youpikker ด้านล่างสุด จากนั้นก็ซื้อสินค้าจาก Youpik Choice 1 ชิ้นค่ะ พอเรากดสั่งซื้อ จ่ายเงินปุ๊บ เราก็จะได้อัพเกรดขึ้นและมีรหัสแนะนำของตัวเองค่ะ
Accesstrade
ที่นี่เป็นแหล่งรวมแบรนด์ทั้งสินค้าและบริการตั้งแต่เครือโรงแรมที่พัก สายการบิน ประกันภัย โรงเรียนสอนภาษา สินเชื่อธนาคาร และแบรนด์สินค้าต่างๆ ค่าคอมมิชชั่นที่จะได้ก็มีเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันออกไป
ข้อดี มีทั้งสินค้า บริการ และทางบริษัทกำลังขยายพาร์ทเนอร์ที่เป็นแบรนด์ต่างๆให้มีมากขึ้นในอนาคต มีหน่วยซัพพอร์ทที่เป็นคนไทย มาตอบคำถามเมื่อติดปัญหา
ทำเงินอย่างไรได้บ้าง
แต่ละบริษัทจะมีวิธีจ่ายเงินหลักๆ อยู่ 2 แบบ คือ
- CPC (Cost per click) เมื่อมีคนคลิกที่แบนเนอร์หรือลิงค์ที่เราวางแปะไว้บนหน้าบทความของเรา ทางบริษัทถึงจะจ่ายเงินให้
- CPA (Cost per action) ต่างกับด้านบนตรงที่ไม่ได้นับจำนวนคลิก แต่นับที่จำนวนแอคชั่น หรือการกดสั่งซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ แทน ลูกค้าจ่ายเงินเมื่อไหร่ เราถึงก็จะได้เงินจากบริษัท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่อง CPA และ CPC ที่นี่เลยค่า
วิธีการเริ่มต้น หารายได้ Affiliate Marketing
1.เลือก Niche ของเราก่อนว่า จะเน้นไปที่สินค้าหรือบริการในหมวดหมู่ไหน
ใครจะเป็นกลุ่ม Value Audience ของเรา ยิ่งเฉพาะเจาะจงได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี และพยายามเลือกจากความชอบของเราด้วย เพื่อให้มีแรงจูงใจในการทำงานต่อไปได้นานๆ ตัวอย่างเช่น เรามีความชอบแนวบิวตี้ สวยงาม เราก็ทำคอนเท้นท์วิธีแต่งหน้าใสๆสไตล์เกาหลี พร้อมกับแปะลิ้งค์ Affiliate ไป หรือแปะแบนเนอร์ของแบรนด์ที่ขายเครื่องสำอางสไตล์เกาหลีก็ได้
ถ้าเราเป็นสาย Technology เน้นไปทาง Gadget ล้ำๆ เราก็อาจจะเลือกพวกสมาร์ทโฟนมาทำคอนเท้นท์ ทำเป็นตารางเปรียบเทียบในสเป็คที่ใกล้เคียงกันว่าแบบไหนจะคุ้มค่าที่สุด พร้อมกับแนบลิ้งค์ซ่อนเอาไว้หลังข้อความแบบ Call to Action เช่น สนใจตามมาซื้อได้ที่นี่ เป็นต้น วิธีนี้เท่ากับเราทำคอนเท้นท์ครั้งเดียว สามารถใส่ลิ้งค์แบรนด์ได้ 3-4 อันเลย ประหยัดเวลาด้วย
2. หาเน็ทเวิร์ค โปรแกรม ที่เกี่ยวข้องกับ Niche ของเรา
3.สร้างแพลทฟอร์มในการทำแอฟฟิลิเอท
เช่น แฟนเพจ ยูทูป เว็บไซต์ สำหรับคนที่ไม่ถนัดทำเว็บเท่าไหร่ ก็เริ่มจากการใช้แพลตฟอร์มโซเชี่ยลแบบฟรีไปก่อนได้ อย่างเช่น FB Page ซึ่งก็สร้างผลลัพธ์ได้เช่นกัน ส่วนใครที่แอดวานซ์ขึ้นมาหน่อยก็แนะนำ การใช้ WordPress ในการทำเว็บไซต์ เริ่มจากจดชื่อโมนเนม และเช่าโฮสต์ติ้งทึ่ Hostatom ได้เลย ที่นี่เค้ามีแผนกดูแลลูกค้าให้บริการอย่างดีเยี่ยม และทุกอย่างเสถียรมาก ตั้งแต่ใช้มาเกิดปัญหาน้อยมากๆ และเค้าก็มีโปรแกรม Affiliate เหมือนกันด้วยนะ
4.สร้างคอนเท้นท์ที่ดีสุดยอด มีรายละเอียด ข้อดีข้อเสีย อย่างครบถ้วน
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ลูกค้าได้อย่างดีที่สุด พยายามใส่แนวความคิดว่าเรากำลังให้คุณค่ากับคนที่อ่าน ลูกค้าจะได้ประโยชน์อะไรบ้างจากตัวคอนเท้นท์ที่เราทำ หรือเราคิดว่าเราอยากรู้ในสิ่งเหล่านี้ ที่ทั้งแบรนด์และที่ไหนๆก็ไม่เคยบอกเรา แต่เราก็สามารถมาเขียนให้คำตอบคุณลูกค้าได้ เปอร์เซ็นต์ที่คนจะคลิกลิ้งค์เพื่อซื้อสินค้าก็มีสูงขึ้นด้วย
5.สร้างฐานลูกค้าและฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบในเนื้อหาที่เราทำ
เวลาที่โพสต์หรือแชร์คอนเท้นท์ออกไปก็ต้องพยายามตอบคำถามและคอมเม้นท์ของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เค้าผูกพันกับเราและอินในสิ่งที่เราแนะนำ พยายามเอาคอนเท้นท์ไปโปรโมทตามเว็บบอร์ด เฟซบุ๊คกรุ๊ป ที่มีกลุ่มลูกค้าเราอยู่ด้วยนะ
6.ใช้หลักการเดิมแล้วทำทั้งหมดซ้ำอีกรอบไปเรื่อยๆ
เนื่องจากว่าการหาเงินด้วยวิธีนี้นั้น เปอร์เซ็นต์ที่เราจะได้จากสินค้าครั้งหนึ่งไม่ได้มากมาย จึงทำให้เราต้องมีจำนวนคอนเท้นท์แนะนำสินค้าที่มีจำนวนเยอะ เพื่อให้เห็นน้ำเห็นเนื้อจากรายได้ แต่เมื่อไหร่ที่หน้าคอนเท้นท์นั้นติดเสิร์ชบนกูเกิลแล้ว มีคนเข้ามาที่หน้านั้นวันละเป็น 100 เป็น 1,000+ ก็เท่ากับว่าเราทำงานแค่ครั้งเดียวแล้วสามารถเก็บรายได้ ได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม
Tips ข้อควรรู้
- ไม่ต้องมี Traffic หรือจำนวนคนเข้าเว็บเยอะก็ได้ แต่ต้องหาลูกค้าที่มีคุณภาพให้เจอ คนที่อยากจะซื้อของจริงๆ
- พยายามให้ลูกค้าเก่าซื้อสินค้าเพิ่ม ดีกว่าการหาลูกค้ารายใหม่ไปเรื่ยๆ เพราะลูกค้าเก่าเค้ารู้จักเราระดับหนึ่งแล้ว เค้าเลยไว้ใจและมีเปอร์เซ็นต์ในการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เราโปรโมทมากกว่าลูกค้าใหม่ๆ
- หาคีย์เวิร์ดที่ดี และสามารถติดอันดับได้ง่าย อย่างเช่น คีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหาไม่เกิน 3,000-10,000 ต่อเดือนบนกูเกิล ในกรณีที่เป็นคีย์เวิร์ดที่คนหาเยอะ
- เลือกสินค้าที่มีการโปรโมทออฟไลน์ด้วย เพราะลูกค้าอาจจะไปเห็นสินค้าข้างนอก จากนั้นก็มาเสิร์ชหาข้อมูลต่อบนออนไลน์ และตัดสินใจซื้อสินค้ากับเราก็ได้
- พยายามสร้างคอนเท้นท์ที่คนสนใจ เขียนให้น่าอ่าน ถ้าจะให้ดีต้องเป็นคอนเท้นท์ที่สดใหม่ ไม่ได้ลอกใครมา หากในตัวเนื้อหาที่เราทำมีทั้งภาพประกอบ อินโฟกราฟฟิก ตารางเปรียบเทียบ วิดีโอรีวิว เรียกว่ามีครบทุกอย่างก็จะทำให้คนอยู่บนเว็บเรานานขึ้น ซึ่งตามสถิติถ้าลูกค้าอยู่นานเกิน 1.30 นาทีขึ้นไป จะช่วยเพิ่มยอดการกดซื้อได้
- วิธีทำให้เว็บติดอันดับดีอาจจะไม่ได้อยู่ที่ปริมาณเนื้อหา แต่เป็นการมีรูปเยอะๆ แทน ก็ช่วยได้เช่นกัน อย่าลืมใส่ Alt Text ที่ภาพด้วยล่ะ สำคัญมาก
- Conversion Rate 70% หรือการอ่านแล้วกดลิ้งค์ กดซื้อสินค้าที่ทำให้เกิดยอดขาย ส่วนใหญ่แล้วเกิดบนหน้าจอ Desktop มากกว่าบนมือถือ วิธีที่แนะนำคือการสร้างทราฟฟิคจากมือถือ ติดคุกกี้ที่ตัวเว็บ แล้วให้คนไปซื้อสินค้าบน Desktop
ข้อมูลตรงนี้ได้มาจากนัก Affiliate เก่งๆ ที่ทำเงินได้ 6 หลักต่อเดือน เลยนะ เอาไปทำตามได้เลยค่ะ
ข้อดีของการ หารายได้ ด้วย Affiliate Marketing
- ไม่ต้องปวดหัวกับการสต๊อกสินค้า แพ็คของ ส่งของด้วยตัวเอง
- ต้นทุนต่ำ ใช้เพียงแค่คอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ท บางครั้งอาจใช้เพียงแค่โทรศัพท์มือถือก็สามารถทำงานได้แล้ว
- เน้นไปที่การทำคอนเท้นท์เป็นหลัก แล้วหาทราฟฟิก หา audience กลุ่มคนที่อยากซื้อสินค้าที่เราโฆษณา จากนั้นก็วางลิ้ง เพื่อให้คนมากดซื้อ
- ใช้เวลาทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถให้ผลลัพธ์ได้เรื่อยๆ ถ้าเราเจอ keyword, product, market fit
- สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้ ขึ้นอยู่กับความขยันและความเก๋าเกมส์
- ทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ท
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานกว่าจะได้เงิน
- ต้องลองผิดลองถูกเยอะ จนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่
- ต้องมีความรู้เรื่อง SEO การหาคีย์เวิร์ดที่ดี ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝน
- ระยะแรกอาจจะไม่ได้เงินเลย จนทำให้เกิดการท้อใจแล้วก็เลิกทำไปในที่สุด
- การจะถอนเงินจาก Account ต้องมีเงินถึงขั้นต่ำที่บริษัทกำหนด เช่น บางเจ้าอาจกำหนดขั้นต่ำ 1,000 บาท หากว่าเราหาได้ 900 บาท เราก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
ตัวอย่างบล็อกและเว็บไซต์ที่ทำ แอฟฟิลิเอทมาร์เก็ตติ้ง
ทำโปรโมทบริการจองที่พักโรงแรม การเดินทาง และแหล่งช็อปปิ้งสำหรับสาวๆ
ช่องทางสมัครบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล ออนไลน์
จะเห็นว่ามีทั้งตัวอย่างที่ทำด้วยแพลตฟอร์มฟรี แบบง่ายๆ บ้านๆ และแบบที่เป็นตัวเว็บไซต์จริงจังที่ต้องใช้เงินลงทุนประมาณหนึ่ง สิ่งที่ให้ผลลัพธ์ได้เหมือนกันก็คือ การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ อันจะนำมาสู่ยอดคลิกและเกิดเป็นรายได้ขึ้นมา
ตัวอย่างแบนเนอร์แอฟฟิลิเอท
สรุป
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ หรือเพิ่งเริ่มศึกษาการหารายได้แนวนี้ แนะนำให้อ่านและลงมือทำเยอะๆ แบบไม่ต้องคิดมาก เรื่องหลักที่ต้องทำก็คือการสร้างคอนเท้นท์ที่มีประโยชน์เพื่อให้คนอยากจะซื้อสินค้าและบริการตัวนั้น สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความจริงใจที่มีต่อผู้อ่าน ไม่ต้องอวยมากจนเค้ารับรู้ได้ว่าตั้งใจขายของ แต่ให้บอกเล่าตามเนื้อผ้า ไม่ดีก็บอกอ้อมๆ ได้ เพราะบางครั้งคนก็อยากจะรู้ข้อเสียบ้าง เพื่อที่เค้าจะเอาไปเปรียบเทียบการตัดสินใจ นอกจากนี้แล้ว ยิ่งเราลงมือทำเยอะ ประสบการณ์เราก็จะเยอะตามไปด้วย แล้วเราก็จะรู้ว่าแบบไหนเวิร์ค แบบไหนไม่เวิร์ค และวิธีไหนจะเหมาะกับตัวตนของเราได้มากที่สุด
จากที่ไปฟังพี่ๆ เค้าเล่ามาบอกเลยว่า 9 ใน 10 เฟล หมายความว่าถ้าเราลองทำซัก 10 ครั้ง จะมีแค่ 1 ครั้งที่มันใช่และได้ผลจริง เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปกังวลว่าทำไมเวลาทำแล้วมันไม่เห็นผลสักที อาจจะต้องเปลี่ยนเป็นการคิดว่า ชั้นจะต้องทำอีกเยอะๆ จนกว่ามันจะได้เรื่อง อีกเรื่องคือการหาคอนเน็กชั่น หาความรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์ด้านนี้ จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกลงไปได้ เอาล่ะ ไปสมัคร Affiliate Program แล้วก็หาสินค้ามาเริ่มโปรโมทกันเลย
Plaradise รับทำเว็บไซต์โดยนักออกแบบมืออาชีพ